[x]ปิดหน้าต่าง
Start by Narongrit.net & Powered by ## MAXSITE 1.10 plus ##
+Post : วันพฤหัสบดี ที่ 29 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2555
 
แชร์ข่าวให้เพื่อน>>>

Advertisement


Advertisement

นำเสนอข่าวและบทความ >>>> โดย ครู กศน.ดอทคอม

ความพิการ 9 ประเภท - กระทรวงศึกษาธิการ


             ศธ.ประกาศหลักเกณฑ์เรียนคนพิการ ๙ ประเภท (
13 พฤษภาคม 2552 ) กระทรวง ศึกษาธิการ กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์ของคนพิการทางการศึกษา พ.ศ.2552 และประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2552 กำหนดประเภทของคนพิการออกเป็น 9 ประเภท ได้แก่ 1. บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น 2. บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน 3. บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา 4. บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ 5. บุคคลที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ 6. บุคคลที่มีความบกพร่องทางการพูด และภาษา 7. บุคคลที่มีปัญหาทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ 8. บุคคลออทิสติก 9. บุคคลพิการซ้อน กำหนดเป้าหมายระยะยาว 1 ปี จัดทำรายงานผลปีละ ๒ ครั้ง กรณีส่งต่อผู้เรียนจบการศึกษาแต่ละระดับ หรือย้ายสถานศึกษา ให้สถานศึกษานำส่งแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล รายงานผลการประเมิน การดำเนินการตามแผน แฟ้มประวัติ และแฟ้มสะสมผลการเรียนของผู้เรียน เพื่อเป็นข้อมูลจัดการศึกษาต่อไป (มติชนออนไลน์ 12 พ.ค. 2552 )

1.บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น

บุคคล ที่มีความบกพร่องทางการเห็น หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการเห็นจนไม่สามารถรับการศึกษา ได้โดยการเห็นหรือใช้สายตาได้ตามปกติ แต่สามารถศึกษาเล่าเรียนได้โดยวิธีการต่างไปจากคนที่มองเห็นปกติแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

1. คนตาบอด หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการเห็นมากจนไม่สามารถอ่านหนังสือธรรมดาได้ ต้องสอน ให้อ่านและเขียนอักษเบรลล์ หรือใช้วิธีการฟังแถบบันทึกเสียง หรือเครื่องบันทึกเสียต่าง ๆ และมีความสามารถในการเห็นของตาข้างที่ดี หลักจากได้รับการแก้ไขแล้วอยู่ระหว่าง 20 ส่วน 200 ฟุต มีลานสายตาแคบกว่า 30 องศา

2. คนตาบอดบางส่วน หรือคนที่มีการเห็นเลือนราง หมายถึง บุคคลที่มีสูญเสียการเห็นแต่ยังสามารถอ่านอักษรตัวพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ได้ โดยต้องใช้แว่นขยายหรืออุปกรณ์พิเศษบางอย่างที่ทำให้ความชัดเจนของการเห็นใน ข้างที่ดี เมื่อแก้ไขแล้วอยู่ในระดับ 20 ส่วน 60 ฟุต ถึง 20 ส่วน 200 ฟุต มีลานสายตาแคบกว่า 30 องศา

2.บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน

บุคคล ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับน้อยไปถึง ระดับรุนแรง จนไม่สามารถฟังเสียงได้เหมือนคนปกติซึ่งอาจจะเป็นหูตึง หรือหูหนวกก็ได้ แบ่งเป็น 2 ประเภท

1. คนหูหนวก หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถรับข้อมูลผ่านทางการได้ยิน ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้เครื่องช่วยฟังก็ตาม โดยทั่วไป หาตรวจการได้ยินจะสูญเสียการได้ยินประมาณ 90 เด ซิเบลขึ้นไป ไม่สามารถได้ยินเสียงพูดดัง ๆ อาจรับรู้เสียงบางเสียงได้ จากการสั่นสะเทือน ไม่สามารถใช้การได้ยินได้เป็นประโยชน์เต็มประสิทธิภาพ คนหูหนวกอาจสูญเสียการได้ยินมา ตั้งแต่กำเนิด หรือสูญเสียการได้ยินภายหลัง

2. คนหูตึง หมาย ถึง บุคคลที่มีการได้ยินเหลืออยู่บ้างสามารถได้ยินได้ ไม่ว่าจะใช้เครื่องช่วยฟังหรือหรือไม่ก็ตาม หากตรวจการได้ยินจะพบว่ามีการสูญเสียการได้ยินน้อยกว่า 90 เดซิเบล ระดับการได้ยินอาจแบ่งเป็นกลุ่มย่อยดังนี้

Ø ตึงเล็กน้อย (26-40 เดซิเบล)

Ø ตึงปานกลาง (41-55 เดซิเบล)

Ø ตึงมาก (56-70 เดซิเบล)

Ø - ตึงรุนแรง (71-90 เดซิเบล)

3.บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา

บุคคล ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา หมายถึง บุคคลที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าคนปกติทั่วไปทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม ภาษา เมื่อวัดสติปัญญาโดยใช้แบบทดสอบมาตรฐานแล้วมีสติปัญญาต่ำกว่าบุคคลปกติและ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่ำกว่าเกณฑ์ปกติอย่างน้อย 2 ทักษะ หรือมากกว่า เช่น ทักษะการสื่อความหมาย การดูแลตนเอง การดำรงชีวิตในบ้าน การควบคุมตนเอง สุขอนามัย และความปลอดภัย การเรียนวิชาการเพื่อชีวิตประจำวัน การใช้เวลาว่าง การทำงาน ทักษะทางสังคม และทักษะในการใช้สาธารณสมบัติ เป็นต้น ซึ่งลักษณะความบกพร่องทางสติปัญญาจะแสดงอาการแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ

1. บกพร่องระดับเล็กน้อย - ระดับเชาวน์ปัญญา (IQ) ประมาณ 55-70

2. บกพร่องระดับปานกลาง - ระดับเชาว์ปัญญา (IQ) ประมาณ 40-55

3. บกพร่องระดับรุนแรง - ระดับเชาว์ระดับรุนแรงมาก (IQ) ประมาณ 25-40

4. บกพร่องระดับรุนแรงมาก - ระดับเชาว์ปัญญา (IQ) ประมาณ 20-25

4.บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ

บุคคล ที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ หมายถึง บุคคลที่มีความผิดปกติ บกพร่องหรือสูญเสียอวัยวะ ส่วนใดสวนหนึ่งร่างกายทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดีหรือมีอาการเกร็ง คือ อาการตึงตัวของกล้ามเนื้อ ส่วนใด ส่วนหนึ่งหรือหลายส่วน ควบคุมการทรงตัวได้ยากหรือไม่ได้เลย มีการเคลื่อนไหวของแขนขาไม่สัมพันธ์กันมีอาการสั่น เดินเซ หรืออาจเป็นบุคคลที่บกพร่องเนื่องจากสุขภาพ หรืออุบัติเหตุ อาการชัดโรคเรื้อรัง โรคติดต่อ เป็นต้น
ประเภทความบกพร่องทางร่างกายหรือสุขภาพ อาจแบ่งได้ดังนี้

1. บกพร่องทางระบบประสาท เช่น บุคคลสมองพิการ (Cerebral Palsy)ไม่ ใช่บุคคลปัญญาอ่อนแต่หมายถึง สมองส่วนที่ใช้ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่อง หรือสูญเสียทำให้มีปัญหาในการเคลื่อนไหว ซึ่งแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวช้า ทรงตัวได้ไม่ดี ซึ่งแต่ละคนทีมากน้อยแตกต่างกันความบกพร่อง จะเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ ประมาณ 7 ปี

ลักษณะที่เห็นได้ชัดเจนของบุคคลสมองพิการ ได้แก่
               - กล้ามเนื้อหดตัว เกร็ง (Spastic) เป็นลักษณะความผิดปกติของการควบคุมการเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวช้ามีอาการเกร็ง ซึ่งเราจะพบบุคคลที่มีอาการในกลุ่มนี้มากที่สุด
                - กล้ามเนื้อควบคุมการเคลื่อนไหวได้ยาก (Athetiod) มีลักษณะขนขาไม่สัมพันธ์  กังหันไป ตามทิศทางต่าง ๆ 
                - กล้ามเนื้อตึงตัว (Ataxia) มีอาการสั่น เดินเซ ควบคุมการทรงตัวได้ไม่ดี ซึ่งเราจะพบบุคคล ที่มีอาการในกลุ่มนี้น้อยที่สุด
                 - แบบผสม มีลักษณะร่วมตั้งแต่ 2 ชนิด เช่น มีอาการเกร็งร่วมกับการเคลื่อนไหวของแขน ไม่สัมพันธ์กัน หันไปคนทิศหรือมีการเกร็ง ควบคุมการทรงตัวไม่ได้มีการสั่นเดินเซ เป็นต้น

2. บกพร่องทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น กล้ามเนื้อเปลี่ยน ไขข้ออักเสบ เป็นต้น

3. ไม่สมประกอบมาแต่กำเนิด เช่น น้ำครั่งในสมอง แขน ขาด้วยหรือกุด แขน ขามีขนาดใหญ่ เล็กผิดปกติ เป็นต้น

4. สภาพความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพอื่น ๆ ได้แก่ บกพร่องจากอุบัติเหตุไฟไหม้ แขน ขาขาด โรคติดต่อ เช่น โปลิโอ การได้รับอันตรายจากการคลอด หรือบกพร่อง เนื่องจากสุขภาพ เช่น โรคหืด โรคหัวใจ โรคปอด โรคเอดส์ เป็นต้น

5.บุคคลที่มีปัญหาทางการเรียนรู้

บุคคล ที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ หมายถึง บุคคลที่มีความบกพร่องทางการรับรู้หรือทางการเรียนรู้ที่มี ความ ผิดปกติอย่างเดียวหรือหลายอย่างทำให้เกิดปัญหาทางการฟัง การอ่าน การพูด การเขียน การสะกด การคำนวณ การใช้เหตุผล การรวบรวมความคิด ซึ่งความผิดปกตินี้ไม่ใช่เกิดจากภาวะบกพร่องทางการเห็น การได้ยินทางร่างกาย ทางสติปัญญา ทางอารมณ์แต่เป็นภาวะทางสมองที่มีความผิดปกติทำให้การแปลภาพ การแปลเสียงหรือการรับรู้ แปรปรวนไปจากเดิมเด็กบางคนมองเห็นหนังสือกลับหลัง เด็กบางคนไม่สามารถแปลความหมายหรือเข้าใจจากการได้ยิน เด็กบางคนไม่เข้าใจตัวเลขและความหมายตัวเลข

6.บุคคลที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา

บุคคล ที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา หมายถึง บุคคลที่มีความบกพร่องในเรื่องการออกเสียงพูด เช่น เสียงผิดปกติ อัตราความเร็วและจังหวะการพูดผิดปกติ หรือคนที่มีความบกพร่องในเรื่องการเข้าใจ และการใช้ภาษาพูด การเขียนตลอดจนระบบสัญลักษณ์อื่นที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งอาจเกี่ยวกับรูปแบบภาษา เนื้อหาของภาษา และหน้าที่ของภาษา

7.บุคคลที่มีปัญหาทางพฤติกรรม และอารมณ์

บุคคล ที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ หมายถึง บุคคลที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปจากบุคคลทั่วไป และพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนนี้ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ต่อสิ่งต่างๆ และปัญหาทางพฤติกรรมนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่เป็นที่ยอมรับกันทางสังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งขาดสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีความคับข้องใจ มีการเก็บกดทางอารมณ์โดยแสดงออกทางร่างกาย

ลักษณะของเด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์

-          ก้าว ร้าว ก่อกวน เด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์ มักแสดงออกในทางก้าวร้าว ก่อกวนความสงบของผู้อื่น พฤติกรรมที่แสดงออกอาจรวมไปถึงความโหดร้าย ทารุณสัตว์ ชกต่อย ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น หวีดร้อง กระทืบเท้า ไม่เชื่อฟังครูและพ่อแม่ พฤติกรรมเหล่านี้อาจรุนแรงขึ้นหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง

-          การ เคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หมายถึง ไม่หยุดนิ่ง เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยปราศจากจุดหมาย นอกจากนี้ยังมีความสนใจสั้น สนใจในบทเรียนได้ไม่นาน ขาดสมาธิในการเรียน

-          การ ปรับตัวทางสังคมเด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์ จะมีการปรับตัวทางสังคมไม่ถูกต้อง ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นที่ยอมรับทางสังคม เช่น แก๊งอันธพาล การทำลายสาธารณสมบัติ ลักขโมย หนีโรงเรียน การประทุษร้ายทางเพศ
ผู้เข้าชม : 15842 ครั้ง


www.krookorsornor , ครู กศน.คอม ,ครู กศน , ครู nfe , พนักงานราชการ กศน. ,ข่าวการศึกษา, แจก code ข่าว , แจกโค๊ดข่าวการศึกษา, แจก code ข่าวการศึกษา ,ข้อสอบผู้บริหร กศน , ครูผุ้ช่วย กศน. , ครุกศน, ครูอาสา กศน.,ครูอาสาสมัคร
 หนังสือราชการ กศน.ที่นี่   [อ่านทั้งหมดที่นี่]


 คลังข้อสอบครู กศน./พนักงานราชการ กศน./ครูผู้ช่วย กศน.   [ดูแนวข้อสอบทั้งหมด ที่นี่]


 พรบ./คำสั่ง/ระเบียบเกี่ยวกับ กศน.   [ดู พรบ. ทั้งหมด ที่นี่]


 สาระน่ารู้กับครูเอกชัย.  [ดูบทความทั้งหมด ที่นี่]

Advertisement
บทความ กศน.ล่าสุด
 
เปิดดู 5332 ครั้ง
21 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 3362 ครั้ง
21 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 3549 ครั้ง
20 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 9140 ครั้ง
20 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 3272 ครั้ง
20 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 3221 ครั้ง
20 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 3194 ครั้ง
20 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 3571 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3912 ครั้ง
26 / ก.ค. / 2562
 
เปิดดู 3549 ครั้ง
26 / ก.ค. / 2562
  ข่าวด่วน กศน.ล่าสุด
 
เปิดดู 12602 ครั้ง
21 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 7410 ครั้ง
20 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 8162 ครั้ง
20 / พ.ย. / 2562
 
เปิดดู 15047 ครั้ง
18 / พ.ย. / 2558
 
เปิดดู 9308 ครั้ง
18 / พ.ย. / 2558
 
เปิดดู 12277 ครั้ง
18 / พ.ย. / 2558
 
เปิดดู 8857 ครั้ง
18 / พ.ย. / 2558
 
เปิดดู 7890 ครั้ง
18 / พ.ย. / 2558
 
เปิดดู 10615 ครั้ง
13 / พ.ย. / 2558
 
เปิดดู 12877 ครั้ง
13 / พ.ย. / 2558
ข่าวเด่นวันนี้..
 
เปิดดู 3841 ครั้ง
2 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3345 ครั้ง
2 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3462 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3273 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3182 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3216 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3239 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 3179 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 2794 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 
เปิดดู 2846 ครั้ง
1 / ส.ค. / 2562
 


เว็บครู กศน. ดอทคอม www.krookorsornor.com
เว็บไซต์เล็กๆ ที่มุ่งหวังให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในการ
ทำงานและใช้เป็นช่องทางในการรับข่าวสารแลกเปลี่ยนข่าวสารที่ทันสมัย
เพื่อนำประสบการณ์ที่ได้แลกเปลี่ยนมาใช้ในการปฎิบัตงาน

  | ADMIN | สำนักงาน กศน. | กลุ่มส่งเสริมปฏิบัติการ | กลุ่มพัฒนาการศึกษาฯ | ศูนย์ฯ กลุ่มเป้าหมายพิเศษ(ศกพ.) | สถาบันการศึกษาทางไกล | สถาบัน กศน. กทม. |สถาบัน กศน.ภาคเหนือ| สถาบัน กศน.ภาคกลาง |สถาบัน กศน.ใต้ |กศน.ภาคตะวันออก |กศน.อำเภอ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | กระทรวงศึกษาธิการ | สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ |สถาบันการศึกษาและพัฒนาต่อเนื่องสิรินธร | เปิดสอบตำรวจ ทหาร ปี 2557